เมื่อตัดดอกขิงแดงแล้วให้นำดอกแช่ลงในอ่างน้ำที่มีน้ำสะอาด และทำความสะอาด ตัดใบให้เหลือ 3-4 ใบ ตัดก้านให้ยาว 1 ม. สำหรับดอกขนาดใหญ่ และดอกขนาดกลาง ส่วนดอกเล็กมักตัดก้านให้ยาว 50-70 ซม. แล้วนำมามัดเป็นกำ ๆ ละ 10 ดอก สำหรับการคัดขนาดดอกนั้นจะคัดตามขนาดดังนี้

เกรด A ช่อดอกยาว 6 นิ้วขึ้นไป ก้านช่อดอกยาว 1 เมตร
เกรด B ช่อดอกยาว 4-5 นิ้ว ก้านช่อดอกยาว 1 เมตร
เกรด C ช่อดอกยาว 2-3 นิ้ว ก้านช่อดอกยาว 0.5-0.7 เมตร


อายุการปักแจกัน

ได้มีการศึกษาค้นพบว่าความยาวของต้นที่ติดกับช่อดอกนั้นมีผลต่ออายุการปักแจกันดังนี้

ก้านยาว 50 ซม. มีอายุการปักแจกัน 2 สัปดาห์
ก้านยาว 100 ซม. มีอายุการปักแจกัน 3-5 สัปดาห์
ก้านยาว 150 ซม. มีอายุการปักแจกัน 4-6 สัปดาห์

และ Jjia (1988) ยังพบว่าการใช้กรด ซิตริก (Citric acid: 5 UM) สามารถยืดอายุการปักแจกันดอกขิงแดง (ก้านยาว 40 ซม.) จาก 4 วันเมื่อแช่ในน้ำกลั่น เป็น 13.5 วัน เมื่อผสมกรกซิตริก ณ อุณหภูมิ 24-24 องศาเซลเซียส

การขนส่ง

จะมีการขนส่งดอกขิงแดงโดยแช่ก้านช่อดอกขิงแดงในถังน้ำ ที่วางไว้หลังรถบรรทุกเล็กส่งพ่อค้าหรือมีพ่อค้ามารับซื้อถึงสวน

ต้นทุนการผลิต ในการผลิตขิงแดง 1 ไร่ สามารถประมาณการต้นทุนการผลิตได้ดังนี้

รายการ
เป็นเงิน (บาท)
ค่าพันธุ์ จำนวน 1,280 ต้น ๆ ละ 10 บาท เป็นเงิน 12,800
ค่าเตรียมดิน 1,000
ค่าแรงงาน 4,500
ค่าปุ๋ยคอก 2,000
ค่าปุ๋ยเคมี 1,000
ค่าสารเคมี 800
รวม 22,100

ผลผลิตต่อไร่

สามารถตัดดอกขิงแดงโดยแบ่งตามขนาดดอกได้ดังนี้คือ
ดอกเล็กจำนวน 67,200 ดอก/ปี ดอกใหญ่และดอกกลางจำนวน 48,000 ดอก/ปี

การจำหน่ายผลผลิต

ส่วนใหญ่จะมีจำหน่ายขิงแดงแก่พ่อค้าปากคลองตลาดโดยแบ่งตามขนาดดังนี้
ดอกเล็กจำนวน 67,200 ดอก/ปี ดอกใหญ่และดอกกลางจำนวน 48,000 ดอก/ปี

ดอกเล็ก 2-3 บาท
ดอกเล็ก 2-3 บาท
ดอกกลาง 4-5 บาท
ดอกใหญ่ 8-10 บาท

ปัจจุบันมีเกษตรกรส่งออกดอกขิงแดงบ้างแต่ไม่มากนัก เนื่องจากพื้นที่การปลูกขิงแดงยังมีน้อยผลผลิตยังไม่มากเพียงพอที่จะป้อนตลาดอย่างสม่ำเสมอ ส่วนการบริโภคภายในประเทศของขิงแดงนั้นมีเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังจะเห็นได้จากการที่ร้านดอกไม้ และโรงเรียนสอนจัดดอกไม้ มีการใช้ดอกขิงแดงมากขึ้น แต่เกษตรกรยังขาดข้อมูลด้านการตลาด ส่วนผู้ซื้อมักจะไม่ทราบแหล่งผลิต ทำให้ผู้ผลิตและผู้บริโภค ไม่พบกันทั้งที่ความต้องการใช้ขิงแดงมีเพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกรไม่กล้าตัดสินใจในการขยายพื้นที่การผลิตมากนัก

เนื่องจากขิงแดงยังมีพันธุ์อื่น ๆ ที่มีรูปร่างลักษณะ และสีแตกต่างกันบ้างเกษตรกรอาจอาศัยความหลากหลายของพันธุ์นี้เปิดตลาดขิงแดงเพิ่มขึ้นได้อีกด้วยในอนาคต