
1. แอสเตอร์จีน (China Aster)
1.1 พันธุ์พาวเดอร์ฟัฟฟ์ (Powder puff) พุ่มต้นขนาดกลางสูงประมาณ 15-24 นิ้ว กลีบดอกสั้น ซ้อนกันแน่นและบิดเล็กน้อย ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของดอก 2-3 นิ้ว เจริญเติบโตได้ดีในที่มีอากาศเย็น โดยเฉพาะในฤดูหนาวของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนเป็นพันธุ์ที่เหมาะจะปลูกเพื่อถอนต้นจำหน่าย ต้านทานโรคเหี่ยวได้ดี
1.2 พันธุ์แดงไส้เหลือง พุ่มต้นเตี้ย สูงไม่เกิน 24 นิ้ว ดอกมีขนาดเล็ก กลีบดอกชั้นนอกมีสีแดง ไส้กลางสีเหลือง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของดอกประมาณ 1-1.5 นิ้ว ออกดอกเร็ว ก้านช่อดอกและต้นสีเปลือกมังคุด เป็นต้นพันธุ์ที่ติดเมล็ดดี จึงนิยมที่จะปลูกเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ ไม่มีผลกระทบต่อช่วงแสงและและอุณหภูมิจึงปลูกได้ตลอดปี ทุกภูมิภาคของประเทศไทย แตกกิ่งก้านและดอกแน่น ก้านดอกแข็งและตั้งตรงจึงเหมาะที่จะถอนต้นล้างรากนำปักแจกันหรือใช้ดอกทำช่อดอกไม้ได้ดี จึงเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาก

2. Aster ericoides
2.1 แอสเตอร์ดาวเงิน เป็นแอสเตอร์ที่นิยมใช้กันมาก ดอกชั้นนอกสีขาว ดอกชั้นในสีเหลือง ดอกขนาดเล็กเป็นช่อ แตกกิ่งสาขามากมาย ใบเรียวเล็ก ขอบใบเรียบ เหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้ตัดดอกได้ดี แอสเตอร์ดาวเงินนี้ บางทีเรียกว่า "แอสเตอร์พีค็อก"
2.2 แอสเตอร์ดาวทองเป็นแอสเตอร์พันธุ์ใหม่ที่นำเข้ามาปลูกในประเทศไทยและก็สามารถปลูกได้ดี ดาวทองหรือ Solidaster นี้ เป็นลูกผสมข้ามระหว่างสร้อยทอง (Solidago) และแอสเตอร์ (Aster ptarmicioides) ปลูกง่ายขึ้นได้ดีในดินทุกชนิด ดอกเป็นช่อ แตกกิ่งสาขามากมาย ดอกมีขนาดเล็ก สีเหลืองทั้งดอกชั้นนอกและชั้นใน แต่เมื่อบานนาน ๆ สี