
การเตรียมดิน : ควรทำในฤดูแล้ง โดยขุดพลิกหน้าดินตากแดดไว้ 2 สัปดาห์ ย่อยดินเก็บวัชพืชออก
และโรยปูนขาว เพื่อปรับสภาพดิน ดินที่เหมาะสำหรับปลูกเบญจมาศควรมี pH ประมาณ 6 ถ้าเป็น
พื้นที่ที่เคยปลูกมาก่อนควรอบดินด้วยเมธิลโบรไมด์ หรือบาซามิคจี เพื่อฆ่าเชื้อโรคและไข่แมลงในดิน การปลูกเบญจมาศในที่ลุ่มน้ำท่วมถึงและเป็นดินเหนียว ระบายน้ำไม่ดีควรยกร่องปลูก โดย
ขนาดแปลงกว้าง 5 เมตร ให้ร่องน้ำกว้าง 1 เมตร ลึก 60 ซม. ส่วนหากปลูกในดินร่วนปนทราย
ระบายน้ำได้ดีก็ไม่จำเป็นต้องยกร่องสูง แต่ควรให้แปลงสูง 15-20 ซม. ขนาดแปลงกว้าง 1.20
เมตร และทางเดินกว้าง 80 ซม.
การปลูก : เลือกกิ่งหรือหน่อที่มีขนาดและความสมบูรณ์ใกล้เคียงกันปลูกในแปลงเดียวกัน เพื่อให้
ง่ายต่อการปฏิบัติบำรุงรักษาและสามารถตัดดอกได้พร้อมกัน ปลูกลึกประมาณ 3/4 นิ้ว หากปลูกลึกเกินไปรากจะเจริญไม่ดีเพราะขาดอากาศ สำหรับระยะปลูกถ้าเป็นการปลูกแบบไม่เด็ดยอดใช้
ระยะปลูก 12.5x12.5-15x15 ซม. ส่วนการปลูกแบบเด็ดยอดใช้ระยะปลูก 15x20-20x20 ซม. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทรงพุ่มของสายพันธุ์ที่ใช้
การเด็ดยอด : นิยมเด็ดยอดกิ่งชำภายหลังการปลูกประมาณ 7 วัน แล้วเลี้ยงกิ่งแขนงไว้ 3 กิ่ง ซึ่งกิ่งชำ 1 ต้น จะผลิตดอกได้ 3 ดอกหรือ 3 ช่อ ขึ้นกับว่าเป็นการปลูกชนิดดอกเดี่ยวหรือดอกช่อ โดยถ้า
เป็นเบญจมาศชนิดดอกเดี่ยวควรเหลือกิ่งแขนงไว้ 2 กิ่ง และประเภทดอกช่อสามารถเลี้ยงไว้ 3 กิ่ง
แขนงได้ แทนการปลูกแบบไม่เด็ดยอด ซึ่งจะได้เพียง 1 ดอก หรือ 1 ช่อต่อต้น นอกจากจะเป็นการ
ลดต้นทุนการผลิตแล้ว ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อบังคับต้นให้แตกกิ่งให้มากขึ้น ทำให้ได้จำนวนดอก
เพิ่มขึ้นตามจำนวนกิ่งและยังได้ดอกที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ควรมีการพยุงต้นให้ตรง
เพื่อให้ได้ดอกที่มีคุณภาพดี โดยใช้ตาข่ายไนล่อนขนาด