การจำหน่ายผลผลิตปลาดุกในราคาเฉลี่ยสูงสุดและต่ำสุดเป็นรายภาคปี 2535 ดังนี้

ภาคเหนือ

จังหวัดเชียงใหม่ ราคาปลาดุกสูงสุด กิโลกรัมละ 44.92 บาท
จังหวัดอุทัยธานี ราคาปลาดุกต่ำสุด กิโลกรัมละ 19.26 บาท

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

จังหวัดอุดรธานี ราคาปลาดุกสูงสุด กิโลกรัมละ 70.23 บาท
จังหวัดนครราชสีมา ราคาปลาดุกต่ำสุด กิโลกรัมละ 20.89 บาท

ภาคกลาง

จังหวัดชัยนาท ราคาปลาดุกสูงสุด กิโลกรัมละ 28.61 บาท
จังหวัดลพบุรี ราคาปลาดุกต่ำสุด กิโลกรัมละ 20.38 บาท

ภาคตะวันออก

จังหวัดสมุทรปราการ ราคาปลาดุกสูงสุด กิโลกรัมละ 68.49 บาท
จังหวัดนครนายก ราคาปลาดุกต่ำสุด กิโลกรัมละ 20.86 บาท

ภาคตะวันตก

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ราคาปลาดุกสูงสุด กิโลกรัมละ 30.95 บาท
จังหวัดกาญจนบุรี ราคาปลาดุกต่ำสุด กิโลกรัมละ 20.07 บาท

ภาคใต้

จังหวัดกระบี่ ราคาปลาดุกสูงสุด กิโลกรัมละ 54.48 บาท
จังหวัดพัทลุง ราคาปลาดุกต่ำสุด กิโลกรัมละ 23.20 บาท

สำหรับในปี 2538 ราคาปลาดุกไตรมาสแรก (เดือนมกราคม-มีนาคม 2538) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 32.63 บาทและไตรมาสที่สอง (เดือนเมษายน-พฤษภาคม) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 33.97 บาท (จุลสารเศรษฐกิจการประมง กรมประมง)

จากการศึกษาของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรพบว่าต้นทุนการผลิตปลาดุกบิ๊กอุยในปี 2535 โดยเฉลี่ยต่อไร่เป็นเงิน 48,834.07 บาท จำหน่ายได้ไร่ละ 64,624.23 บาทมีกำไรสุทธิ 15,790.16 บาทต่อไร่ ส่วนต้นทุนการผลิตต่อกิโลกรัมเป็นเงิน 15.30 บาทมีกำไรสุทธิเฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.95 บาทได้รับผลตอบแทนของการลงทุนร้อยละ 32.35

หากเปรียบเทียบต้นทุนการผลิต ระหว่างปลาดุกบิ๊กอุยกับปลาช่อนในปี 2535 พบว่าต้นทุนการผลิตเฉลี่ยไร่ละ 411,297.83 บาท จำหน่ายผลผลิตมีรายได้ 469,737.10 บาทต่อไร่ สำหรับต้นทุนการผลิตต่อกิโลกรัมเป็นเงิน 40.47 บาท มีกำไรสุทธิเฉลี่ย 5.75บาทต่อกิโลกรัม ได้รับผลตอบแทนของการลงทุนร้อยละ 14.21

เกี่ยวกับผลการศึกษาจำนวนฟาร์มเนื้อที่ ปริมาณและมูลค่าการเลี้ยงปลาน้ำจืดในปี 2534 ของกองเศรษฐกิจการประมง กรมประมงมีดังนี้ ภาคเหนือ จำนวน 15,444ฟาร์มเนื้อที่ 15,430 ไร่ ปริมาณผลผลิต 13,298.46 ตัน มูลค่า 288.1 ล้านบาท ได้แก่พื้นที่จังหวัด นครสวรรค์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ อุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 29,226 ฟาร์ม เนื้อที่ 46,501 ไร่ ปริมาณผลผลิต 11,334.13 ตัน มูลค่า 264.7 ล้านบาท ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี นครราชสีมา หนองคาย อุบลราชธานี ภาคกลาง จำนวน 14,172 ฟาร์ม เนื้อที่ 77,322 ไร่ ปริมาณผลผลิต 85,199.22 ตัน มูลค่า 1,614.5 ล้านบาท ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร สุพรรณบุรี ฉะเชิงเทรา ภาคใต้ จำนวน 5,897 ฟาร์ม เนื้อที่ 1,925 ไร่ ปริมาณผลผลิต 5,076.94 ตัน มูลค่า 156.7 ล้านบาท ในพื้นที่จังหวัด สุราษฎร์ธานี สตูล สงขลา