
แกลดิโอลัสมีมากกว่า 150 ชนิด มีทั้งกลิ่นหอมและไม่มีกลิ่น ปัจจุบันมีพันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้า
เกือบ 3,000 พันธุ์ สำหรับพันธุ์ที่ปลูกในประเทศไทยไม่แน่นอน เพราะได้มีการสั่งพันธุ์
แกลดิโอลัสใหม่ ๆ เข้ามาปลูกอยู่เสมอ เพราะต้องการให้ตรงกับความนิยมของผู้ใช้ และคุณภาพ
ของพันธุ์ที่ได้จากการเก็บหัวพันธุ์มาปลูกจะลดลง
พันธุ์ที่แนะนำให้ปลูกเป็นไม้ตัดดอก
พันธุ์ดอกกลางและดอกใหญ่
1. Peerless ดอกมีสีแดงสดสม่ำเสมอทั่วทั้งกลีบโดยไม่มีสีอื่นเจือปน กลีบดอกหนาแข็ง
เปิดกว้างขอบกลีบเป็นคลื่นเล็กน้อย ช่วงช่อยาว 75-80 ซม. ดอกในช่อมีประมาณ 20-25 ดอก
บานเรียงสลับฟันปลาเกยก่ายซ้อนกันในคราวเดียว 5-6 ดอก ทนร้อนได้ดี แต่หากออกดอกช่วง
ฝนตกจะทำให้ดอกช้ำได้ จึงทำให้เหมาะสำหรับปลูกไม้ตัดดอก
2. Aztec Gold ดอกมีสีเหลืองอ่อน ในคอดอกจะมีสีเหลืองเข้มกว่าส่วนของกลีบดอกเล็กน้อย
ดอกบานกว้าง กลีบบนงุ้มคลุมเกสร กลีบล่างโค้งงอม้วนไปด้านหลังจรดก้านดอก กลีบดอกหนา
แข็ง ขอบกลีบเป็นคลื่นเล็กน้อย ปลายกลีบนอกบนหยัก ทนร้อนได้ดีพอสมควร ช่อดอกยาว มี
16-18 ดอกต่อช่อ และบานพร้อมกัน 5-6 ดอก ใช้เป็นไม้ตัดดอกได้ดีเช่นกัน
3. Precision ดอกมีสีกุหลาบม่วงแดง คอสีครีมแต้มเป็นปื้น เส้นกลางกลีบขาวจากโคลนมาถึง
ปลายกลีบ ขอบกลีบเป็นคลื่นเล็กน้อย อับเกสรมีสีม่วงแดง ช่อดอกยาว 125-130 ซม. ช่วงช่อดอก
ยาว 60 ซม. ดอกในช่อมีประมาณ 18-20 ดอก บานพร้อมกัน 6-7 ดอก ความสม่ำเสมอของช่อดอก
ดีมาก ตั้งตรง แข็งแรงใช้ทำไม้ตัดดอกได้