อาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนบทภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ ภาคเหนือ สืบทอดต่อ ๆ กันมา แมลงที่กินได้บางชนิดพบมีอยู่เฉพาะที่ จึงรู้จัก กินกันเฉพาะท้องถิ่นนั้น ๆ แต่บางชนิดมีอยู่ทั่ว ๆ ไปในประเทศจึง รู้จักกินกันอย่างกว้างขวางในหมู่คนไทย และบางครั้งสามารถหาซื้อได้ ตามท้องตลาด แมลงกินได้ที่พบในประเทศไทยเท่าที่สำรวจได้มีมากกว่า 50 ชนิด แต่ในที่นี้จะเขียนถึงแมลงกินได้เพียงบางชนิดที่เป็นที่รู้จัก นิยมกินกัน ควรเด็ดเอาส่วนแข็งออกก่อน เช่น หัว ขา และปีกและสิ่งที่สำคัญคือ ต้องไม่จับแมลงในแหล่งที่มีการพ่นสารฆ่าแมลงมากินเป็นอันขาด แมลงที่กินได้มีดังนี้ แมลงกินูน (แมลงอินูน) บางชนิดมีสีเขียว เรียกว่ากินูนเขียว กลางวันหลบซ่อนอยู่ในดินหรือ ใต้กองใบไม้ กลางคืนบินออกมากินใบอ่อนพืช จับได้โดยมือจับหรือ ใช้กระบอกไม้ไผ่จ่อที่ตัวแมลง มันจะปล่อยตัวตกลงมา นำไป คั่ว ทอด นึ่ง หรือแกงรับประทานได้ ด้วงแรด (ด้วงมะพร้าว) ได้ โดยนำมา ปิ้ง คั่ว ทอด หรือแกง แมลงทับ เช่น มะขามเทศ กระถินณรงค์ รับประทานได้ โดยนำมา ปิ้ง คั่ว ทอด หรือยัดไส้หมู สับและนึ่ง กว่างซาง ออกมา 5 เขา สวยงาม พบกินยอดไผ่ซางทางภาคเหนือ ประกอบ อาหาร โดยนำมา ปิ้ง คั่ว ทอด หรือสับทำเป็นลาบ กว่างชน (กว่างโซ้ง กว่างกิ กว่างอีลุ่ม) กว่างกิ ตัวเมียไม่มีเขา เรียกว่าอีลุ่ม ชาวบ้านทางภาคเหนือนิยมนำเอา ตัวผู้มาชนต่อสู้กัน ในปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ในกรุงเทพฯ โดยเด็ก ชอบซื้อไปเลี้ยงดูเล่น หรือใหห้ต่อสู้กัน นำมาประกอบอาหารได้เช่นเดียว กับกว่างซาง |
![]() |
แมลงตับเต่า |
แมลงตับเต่า (ด้วงดิ่ง) ทาง อยู่ในน้ำตามบ่อ หนอง บึง มักอยู่นิ่ง ๆ บนผิวน้ำเอาหัวดิ่งลง ชอบบินมาเล่นแสงไฟเวลากลางคืน รับประมาณได้ โดยนำมา คั่ว ทอด นึ่ง หรือแกง แมลงเหนี่ยง ทางสีน้ำตาลอ่อน และมืออวัยวะคล้ายลูกศรอยู่กลางอกทางด้านท้อง นำมาประกอบอาหารได้เช่นเดียวกับแมลงตับเต่า แมลงข้าวสาร มาเล่นแสงไฟเวลากลางคืน นำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น คั่ว ทอด แกง หมก หรือตำเป็นน้ำพริก แมลงกุดจี่ (แมลงขี้ครอก, ด้วงขี้ควาย) แมลงปีกแข็ง อยู่ตามกองมูลสัตว์ หรือในดินใต้กองมูลสัตว์ ถ้ามีแมลงนี้อยู่จะมีรอยขุยอยู่ที่กองมูลสัตว์ จับได้โดยใช้ไม้คุ้ย หรือขุดลงไปในดิน เมื่อได้ตัวแล้วต้องใส่ถังตั้งทิ้งไว้หนึ่งคืน เพื่อให้แมลงถ่ายสิ่งสกปรกออกแล้วนำไปแช่น้ำล้างให้สะอาด รับประทานได้เช่นเดียวกับแมลงกินูน |
![]() |
จิ้งโกร่ง (จิโปม) |
จิ้งโกร่ง (จิโปม) จอบขุดกลางคืนบินออกมาเล่นไฟ รับประทานได้โดยนำมา คั่ว ทอด ชุบแป้งทอด เสียบไม้ย่าง หรือนึ่ง จิ้งหรีด (จี้หล่อ) ได้เช่นเดียวกับจิ้งโกร่ง |
![]() |
แมลงกระชอน |
แมลงกระชอน ครั้งบินมาเล่นแสงไฟ รับประทานได้เช่นเดียวกับจิ้งโกร่ง ตั๊กแตนปาทังก้า ทำทอดมันและที่นิยมมากคือนำมาทอดกรอบตั๊กแตนปาทังก้าทอดกรอบ สามารถหาซื้อรับประทานได้ทั่วไปในกรุงเทพฯ โดยมีพ่อค้าบรรทุกตั๊กแตน เป็น ๆ มาขายที่ตลาดคลองเตยทุกเช้าในช่วงระยะที่ไม่มีการพ่นสารปราบ ตั๊กแตน ตั๊กแตนเล็ก (ตั๊กแตนข้าว) อาหารได้โดยนำมา คั่ว นึ่ง หรือทอด แมลงเม่า ถุงตาข่ายครอบไว้ที่ปากรังหรือจอมปลวกขณะที่มันบินออก หรือใช้ แสงไฟล่อ โดยตั้งภาชนะใส่น้ำไว้ใต้หลอดไฟ แมลงเม่าเมื่อตกลงไปใน น้ำแล้วไม่สามารถบินขึ้นมาได้ ในการรับประทานนำมาคั่วและใส่เกลือ เล็กน้อย แมลงมัน บินมาเล่นแสงไฟ รับประทานได้เช่นเดียวกับแมลงเม่า มดแดง, มดนาง, มดเป้ง ไข่มดแดง มีมดที่มีลักษณะแตกต่างกันหลายแบบที่เห็นทั่ว ๆ ไป มีตัวสีแดง คือ "มดงาน" ตัวอ่อนและดักแด้ของมดงานมีขนาดเล็กสีขาว ชาวบ้าน เรียกว่า "ไข่มดแดง" ส่วนราชินีมดแดง ตัวโตสีเขียว มีปีกเรียกว่า "มดนาง" ตัวอ่อนและดักแด้ของมดนางมีขนาดใหญ่สีขาว เรียกว่า "มดเป้ง" รสเปรี้ยวจากกรดฟอร์มิก ส่วนมดเป้งและไข่มดแดง นำมาหมก ยำ ผึ้ง รังผึ้งที่มีตัวอ่อนไปปิ้ง หรือเคี้ยวรับประทานสด เฉพาะตัวอ่อนนำไป คั่ว ทอด หรือแกงได้ หนอนไผ่ (ตัวแน่, รถไฟ) ช่วงฤดูฝน รับประทานได้โดยนำมาคั่ว หรือทอด เป็นที่นิยมมาก หา ซื้อหนอนไผ่นี้ได้ตามท้องตลาด หรือสามารถสั่งซื้อหนอนไผ่ทอดกรอบ ได้ตามภัตตาคารบางแห่งในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ดักแด้ไหม ปลอกหุ้ม นำมารับประทานได้โดยนำมานึ่ง คั่ว ทอด แกง หรือป่น ใส่น้ำพริก ตัวจรวด (เครื่องบิน) หรือเครื่องบิน มีหลายชนิด ชอบบินมาเล่นแสงไฟ นิยมรับประทาน โดยเด็ดปีกแชาน้ำล้างขนออกให้หมด แล้วนำมาคั่ว ทอด หรือปิ้ง แมลงโป้งเป้ง (แมงงำ) สวิงซ้อน นำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด เช่น คั่ว ทอด หมก แกง จักจั่น, เรไร เหมือนจักจั่น แต่มีขนาดใหญ่กว่า ทั้งจักจั่นและเรไร รับประทานได้ โดย คั่ว ทอด ปิ้ง ทำลาบ แกง หรือตำเป็นน้ำพริก
|
แมลงดานา ใช้แสงไฟล่อ โดยเฉพาะไฟสีน้ำเงิน ตัวผู้มีกลิ่นฉุนนำมาตำเป็นน้ำพริก น้ำแจ่ว หรือดองน้ำปลารับประทาน ตัวเมียไม่มีกลิ่นรับประทานได้โดย นำมาปิ้ง ทอด หรือยัดไส้หมูสับ แล้วนึ่ง หรือทอด แมลงดาสวน (แมลงก้าน, มวนตะพาบ, มวนหลังไข่) กลุ่มติดแน่นอยู่บนหลังตัวผู้ ตัวผู้ดูแลไข่จนฟักออกเป็นตัว แมลงชนิดนี้ นำมาประกอบอาหารได้ เช่น คั่ว ทอด หรือตำเป็นน้ำพริก มวนแมงป่องน้ำ (แมลงคันโซ่) โดยนำมา คั่ว ทอด นึ่ง ทำลาบ หรือตำเป็นน้ำพริก |
พบว่า แมลงตับเต่า, ตั๊กแตนเล็ก และแมลงดานา มีปริมาณโปรตีน และไขมันใกล้เคียงกับโปรตีนและไขมัน จากเนื้อสัตว์ ซึ่งแสดงในตาราง ที่ 1 ดังนี้
ตารางที่ 1 แสดงคุณค่าอาหารของแมลงและเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ต่อน้ำหนัก |
ชนิด | โปรตีน | ไขมัน | (กรัม) | (กรัม) | แมลงตับเต่า | 21.0 | 7.1 | ตั๊กแตนเล็ก | 20.6 | 6.1 | แมลงดานา | 19.8 | 8.3 | ปลาดุก | 23.0 | 2.4 | เนื้อไก่ | 20.2 | 12.6 | เนื้อวัว | 18.8 | 14.6 | เนื้อหมู | 14.1 | 35.0 | ไข่ไก่ | 12.7 | 11.9 |
ที่มา : กองโภชนาการ กรมอนามัย (2521) และ โภชนาการสาร ปีที่ 17(1) 15-12 พ.ศ. 2526 |
บางชนิดแล้วไม่แตกต่างกันมากนักในขณะที่เนื้อสัตว์มีราคาแพงขึ้นทุก วันในปัจจุบันแมลงอาจเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญได้ในอนาคตเนื่องจาก หาเองได้ง่าย และสามารถเพิ่มปริมาณได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งโดยทั่ว ๆ ไป แล้ว แมลงสะอาดกว่าสัตว์ชนิดอื่น และในปัจจุบันมีแนวโน้มว่าคนไทย ทั่ว ๆ ไปไม่เฉพาะแต่มีอยู่ตามชนบทเท่านั้นนิยมรับประทานแมลงมากขึ้น หากมนุษย์จะตัดความคิดรังเกียจขยะแขยงแมลงออกไปเสีย แมลงจะ เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีน ไขมัน และธาตุต่าง ๆ ให้กับ มนุษย์ได้อย่างดี ซึ่งอาจช่วยลดปัญหาการขาดแคลนอาหารไปได้บ้าง ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น สัตว์หลายชนิดก็กินแมลงเป็นอาหาร แม้แต่ สัตว์เลี้ยง เช่น นก ปลา ไก่ เป็นต้น ปัจจุบันได้มีการผลิตแมลงเพื่อ ใช้เป็นอาหารสัตว์ เช่นตัวหนอนแดง และดักแด้ไหม ใช้เป็นอาหารปลา ทำให้ปลาสมบูรณ์แข็งแรง มีสีสันสวยงาม |