
ปกติผู้ปลูกเลี้ยงไม้ดอกสกุลนี้นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีแยกเหง้า ซึ่งจะได้ต้นที่มีลักษณะ
เหมือนเดิม การขุดหัวของไม้ดอกสกุลนี้เมื่อสิ้นฤดูปลูกจะพบว่าแต่ละกอจะมีเหง้าหลาย
เหง้าเชื่มติดกัน จึงควรแยกเหง้าเหล่านั้นออกจากกันก่อนที่จะนำเหง้าไปผึ่งและเก็บรักษา
เพราะแผลจะไม่ถูกเชื้อโรคเข้าทำลาย วิธีแยกเหง้าจะเพิ่มปริมาณได้ในอัตราเท่าไรจึง
ขึ้นกับขนาดของกอ
หากผู้ปลูกมีจำนวนเหง้าไม่เพียงพอ อาจนำเหง้าที่มีอยู่มาผ่านแบ่งตามความยาวเป็น 2
ชิ้น แต่ละชิ้นมีตาซึ่งอยู่ในสภาพดี ติดอยู่ไม่น้อยกว่า 1 ตา ซึ่งเมื่อผ่าเหง้าแบ่งแล้วจะต้องจุ่มชิ้น
ส่วนของเหง้าในสารละลายของยาป้องกันเชื้อรา เช่น แคปแทน ในอัตราที่ใช้ฉีดพ่นต้นไม้แล้วนำ
ชิ้นส่วนดังกล่าวไปผึ่งให้แห้งในที่ร่มก่อนปลูก วิธีนี้จะทำให้เพิ่มจำนวนต้นพันธุ์ได้อีกเท่าตัว แต่
การผ่าเหง้านี้จะต้องดูแลต้นไม้มากกว่าปกติด้วยเพราะต้นที่เกิดขึ้นนั้นได้อาหารสะสมเพียงครึ่ง
ของเหง้าปกติและมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย