การใช้สารเคมีเร่งการออกดอกในสับปะรด
เนื่องจากสับปะรดมีอายุการออกดอกค่อนข้างช้า
และไม่สม่ำเสมอซึ่งมีผลไปถึงการเก็บผลด้วย แต่ในบรรดาพืชมีดอกทั้งหลาย
สับปะรดนับว่าเป็นพืชที่ใช้สารเคมีเร่งให้ออกดอกก่อนกำหนดได้ง่าย
สารเคมีที่ใช้เร่งดอกสับปะรด
ที่นิยมใช้กันมากได้แก่
1. เอทธิฟอน
เป็นสารเคมีที่ให้ก๊าซเอทธิลินโดยตรง
เมื่อเอทธิฟอนเข้าไปในเนื้อเยื่อสับปะรด จะแตกตัวปล่อยเอทธิลินออกมา
เอทธิลินเป็นตัวชักนำให้เกิดการสร้างตาดอกขึ้น ซึ่งจะทำให้เก็บผลได้ก่อนกำหนดประมาณ
2 เดือน
เอทธิฟอน มีชื่อการค้าหลายชื่อ
แต่ที่นิยมคือ อีเทรล (39.5% เอทธิฟอน) โดยใช้ในอัตรา 8 ซีซีต่อน้ำ
20 ลิตร และเติมปุ๋ยยูเรียอีก 300 กรัม ผสมให้เข้ากันดีแล้วใช้หยอดยอดหรือฉีดพ่น
ต้นละ 70-80 ซีซี หยอด 2 ครั้ง ห่างกัน 5-7 วัน สารนี้เมื่อผสมน้ำแล้วต้องใช้ทันทีอย่างช้าไม่เกิน
2 ชั่วโมง มิฉะนั้นสารเคมีจะลดประสิทธิภาพลงเวลาที่เหมาะสมในการหยอด
คือ ตอนเช้ามืด และต้นสับปะรดต้องมีลักษณะพร้อมที่จะออกดอก หากฝนตกมาภายใน
2 ชั่วโมงหลังการใช้สารนี้ให้ทำซ้ำอีกครั้ง ให้เร็วเท่าที่จะทำได้
ปริมาณการใช้เอทธิฟอนจะมากหรือน้อย
ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและขนาดต้นสับปะรด ถ้าต้นสมบูรณ์มากให้ใช้ปริมาณมากขึ้นหรือหากจำเป็นต้องหยอดยอดในตอนกลางคืนช่วงที่มีอากาศร้อนอบอ้าว
ให้ใช้ปริมาณมากขึ้นอีกเท่าตัว
การฉีดสารเอทธิฟอนบังคับการออกดอกในสับปะรด
2. ถ่านแก๊สแคลเซียมคาร์ไบด์
(บางที่เรียกว่าถ่านเหม็น)
การใช้แคลเซียมคาร์ไบด์
เร่งดอกสับปะรดเป็นที่นิยมกันมากเพราะหาง่ายและราคาไม่แพง แต่การใช้จะได้
ผลดีนั้น ต้นสับปะรดจะต้องมีลักษณะพร้อมที่จะออกดอก
คือ มีอายุระหว่าง 7-8 เดือน หรือมีโคนต้นที่อวบใหญ่ ประมาณน้ำหนักของต้น
2.5 กิโลกรัมขึ้นไป หรือมีใบ 45 ใบขึ้นไป จึงใช้สารเร่งดอกได้ผล
การใช้แคลเซียมคาร์ไบด์
เพื่อเร่งดอกสับปะรดนั้น ปัจจุบันมีชนิดเกล็ดสำเร็จรูปเพื่อให้ใช้ได้ง่าย
โดยใช้อัตรา 200-250 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร ปล่อยให้เดือดเต็มที่แล้วนำไปหยอดสับปะรดต้นละ
70-80 ซีซี (ถ้าเป็นแปลงสับปะรดตอหยอดต้นละ 80-90 ซีซี) ทำการหยอด 2
ครั้งห่างกัน 5-7 วัน ควรทำในเวลาเช้ามืดหรือตอนเย็นเพราะถ้าทำในตอนกลางวันจะได้ผลไม่ดีนัก
หากฝนตกมาภายใน 2 ชั่วโมงหลังการใช้สารนี้ ให้ทำซ้ำอีกครั้ง ให้เร็วเท่าที่จะทำได้
หลังจากหยอดสารเร่งประมาณ
40-45 วัน จะเริ่มเห็นสับปะรดเป็นจุดแดงอยู่ภายในยอด ต่อมา 60-70
วัน
จะเห็นผลสับปะรดขนาดเล็กทรงกลมสีแดงโผล่ขึ้นจากยอด
อาจมีดอกสีม่วงอยู่ด้วยดอกจะเริ่มบานจากฐานไปยอดลูก ประมาณ 90 วัน
ดอกสีม่วงจะแห้ง แล้วเข้าสู่ช่วงการขยายขนาดผลซึ่งจะขึ้นอยู่กับความชื้นและธาตุอาหารที่ต้นสับปะรดได้รับในระหว่างการเจริญ
เติบโตของผล (ปัจจุบันมีปัญหาขาดแรงงานในการหยอดแก๊ส จึงไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้)
การหยอดสับปะรด
การใช้แคลเซีมคาไบด์หยอดยอดสับปะรด
|