พันธุ์ข้าวที่จะปลูกในที่นาทั้งหมด โดยใช้อัตราส่วนดังนี้ คือ พื้นที่ แปลงพันธุ์ 1 ไร่ต่อพื้นที่ปลูกประมาณ 50 ไร่ เมล็ดข้าวที่ร่วงหล่นตกค้างในแปลงนาโดยการไถพรวน แล้วปล่อย น้ำให้ข้าวเรื้องอก จากนั้นไถคราดกำจัดข้าวเรื้อออกให้หมด โดย แปลงนาที่ปลูกข้าวพันธุ์ดีนั้น ควรจะปลูกพันธุ์เดิมซ้ำทุกๆปี เช่นเดียวกับแปลงกล้า และทำการปักดำข้าวกอละ 3 ต้น ระยะ ห่างประมาณ 25 เซนติเมตร และเว้นระยะระหว่างพันธุ์ 1 เมตร หรือคนละกระทงนา มีการใส่ปุ๋ยบำรุง ได้แก่ สูตร 16-20-0 หรือ 16-16-8 อย่างน้อยไร่ละ 20-25 กิโลกรัมต่อไร่ ระยะแตกกอ โดยดูจากลักษณะการแตกกอ การชูใบ ความสูง สีของใบและต้น ถ้าพบต้นที่ผิดปกติ ควรตัดกอหรือต้นข้าวนั้นทิ้ง ครั้งที่ 2 ระยะออกดอกให้ตัดกอข้าวหรือต้นข้าวที่ออกดอก ผิดเวลากับต้นข้างเคียง ครั้งที่ 3 ระยะข้าวส่วนใหญ่สุกเหลืองให้ ตัดข้าวที่มีลักษณะเมล็ดผิดปกติทิ้งไป ไม่ควรตากฟ่อนข้าวทิ้งไว้ในแปลงนา เพราะอาจจะถูกฝนทำให้ เมล็ดข้าวเสื่อมคุณภาพได้ 105 ออกจากข้าวพันธุ์อื่นๆ เมื่อตากแดดแห้งดีแล้วฝัดให้สะอาด และบรรจุลงกระสอบเก็บไว้ในที่ร่มแห้งและเย็น การเก็บเกี่ยว ออกดอกแล้วประมาณ 30-35 วัน โดยรวงจะโน้มลง เมล็ดใน รวงมีสีฟางหรือเหลือง โคนรวงมีเมล็ดเขียวบ้างเล็กน้อย ซึ่งเรียกว่า ระยะพลึบพลึง เป็นระยะที่เมล็ดข้าวสุกแก่พอเหมาะ ทำให้ได้ น้ำหนักเมล็ดสูง เปอร์เซ็นต์ข้าวเต็มเมล็ด ปริมาณมากและมีbr> คุณภาพการสีดี ควรระบายน้ำออกจากแปลงนาเพื่อให้ข้าวสุกแก่พร้อมกัน ส่วนวิธี การเก็บเกี่ยวนั้น สามารถทำได้ทั้งการเกี่ยวด้วยมือ และใช้เครื่อง มือเก็บเกี่ยว ซึ่งจะให้ข้าวที่มีคุณภาพไม่แตกต่างกัน แต่ถ้ามีการ ปรับเครื่องจักรไม่เหมาะสมกับการทำงานอาจจะทำให้เกี่ยวไม่หมด ข้าวร่วงหล่นหรือเมล็ดแตกหักได้
คือ 12-14 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเมื่อนำไปสีแล้วจะทำให้ได้คุณภาพ การสีสูง และสามารถเก็บข้าวเปลือกไว้ได้นาน ซึ่งการตากข้าวมี 2 วิธีคือ เมล็ดยังอยู่ในรวง โดยการตากจะต้องคำนึงถึงคุณภาพข้าวที่ตาก เป็นสำคัญ โดยทำให้ได้ความชื้นพอเหมาะและข้าวมีความสะอาด ซึ่งมีวิธีปฏิบัติดังนี้ น้ำฝน โดยเฉพาะกองข้าวที่กองสูง ๆ หรือกองตากแดดทิ้งไว้นาน ๆ เพราะจะทำให้เมล็ดมีรอยร้าว และข้าวตากหักมากเวลานำไปสี เพราะจะทำให้ข้าวถูกแดดสม่ำเสมอและไม่สกปรก รวงแล้ว โดยตากบนลานตากหรือบนพื้นที่มีวัสดุรองรับ การตาก ควรมีการกลับกองข้าวอย่างสม่ำเสมอและในช่วงเวลากลางคืน ควรโกยข้าวมากองรวมกันแล้วใช้ภาชนะปิดกันน้ำค้างและฝน การตากวิธีนี้จะใช้เวลาตากประมาณ 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับปริมาณข้าว
แตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่ เช่น การนวดด้วยเท้า ใช้กระบือย่ำ นวดโดยการฟาดโดยใช้รถแทรกเตอร์ย่ำ และนวดด้วยเครื่องนวดข้าว ซึ่งการนวดข้าวนั้นมีข้อควรคำนึง คือ ควรระมัดระวังการสูญเสีย ของข้าวเนื่องจากนวดไม่หมดหรือเมล็ดกระเด็นหายไป หรือ ถูกเครื่องนวดพ่นเอาเมล็ดดีออกไป เป็นต้น ซึ่งหากไม่ได้ใช้ เครื่องนวดจะต้องมีการทำความสะอาดเมล็ดข้าวเปลือกด้วย เพื่อลด สิ่งเจือปนที่ติดมากับข้าว
เพาะเชื้อโรคและแมลงศัตรู ศัตรอื่นๆ อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีหลังคาปิดกันแดดและฝน กระสอบให้สูงจากพื้นประมาณ 5-6 นิ้ว เพื่อป้องกันความชื้นจาก พื้นดินหรือซีเมนต์ |
![]() | ![]() |