สะตอเป็นพันธุ์ไม้ป่าตระกูลถั่วชนิดหนึ่งที่ปลูกง่าย โตเร็ว ให้ร่วมเงาดี สามารถเจริญเติบโตปะปนกับต้นไม้อื่นๆ ได้หลายชนิด เหมาะที่จะนำมาปลูกเป็นพืชแซมร่วมกับพืชหลักอื่น ๆ เช่น กาแฟ โกโก้ ทุเรียน ลองกอง เป็นต้น การปลูกสะตอเป็นพืชแซม นอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรแล้ว ส่วนอื่น ๆ ของสะตอ ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่าง เช่น รากช่วยยึดดินมิให้พังทะลายและทำให้ดินชุ่มชื้นอยู่เสมอ ใบใช้เป็นปุ๋ยบำรุงดิน ลำต้นใช้ทำเป็นเครื่องตกแต่งบ้าง เมล็ดใช้บริโภค โดยนำมาผัด ต้ม แกง หรือรับประทานดิบก็ได้

1. สะตอข้าว ฝักมีลักษณะบิดเป็นเกลียว สีเขียวอ่อน เมล็ดมีขนาดเล็ก ขอบฝักชิดกับเมล็ดใน 1 ฝักจะมี 10-20 เมล็ด เมล็ดมีรสชาติมันกลิ่นไม่ฉุนมากนัก เนื้อไม่ค่อยแน่น อายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 3-4 ปี

2. สะตอดาน ฝักมีลักษณะแบนตรง สีเขียวแก่ ขอบฝักจะห่างจากเมล็ดและมีขนาดหนาเมล็ดมีขนาดใหญ่ ใน 1 ฝักจะมี 10-20 เมล็ด เมล็ดมีรสชาติมัน มีกลิ่นฉุนจัด เนื้อแน่น อายุการเก็บเกี่ยวประมาณ 6-7 ปี

การขยายพันธุ์สะตอสามารถทำได้ด้วยการเพาะเมล็ดหรือการติดตา ซึ่งการเพาะด้วยเมล็ดจะทำให้ขยายพันธุ์ได้ครั้งละมาก ๆ และใช้เวลาไม่มากนัก แต่มีข้อเสียคือ ต้นพืชที่เจริญขึ้นมาอาจมีการกลายพันธุ์ได้ ส่วนการติดตานั้นจะได้ต้นพันธุ์ที่มีลักษณะเหมือนเดิมและให้ผลผลิตเร็วกว่าการปลูกด้วยเมล็ด


การปลูกสะตอแซมพืชอุตสาหกรรม เช่น กาแฟ โกโก้ ใช้ระยะปลูก 12x12 เมตร (ดังแผนภาพ)

การปลูกสะตอแซมในสวนไม้ผล เช่น ทุเรียน ลองกอง ให้ปลูกแบบสลับฟันปลา โดยให้ต้นสะตอห่างกันประมาณ 15-20 เมตร (ดังแผนภาพ)

การปลูกสะตอแซมในสวนกาแฟ โกโก้ หรือไม้ผลอื่นๆ ต้องมีการดูแลเอาใจใส่อย่าสม่ำเสมอ โดยการให้น้ำและใส่ปุ๋ย เพื่อให้ต้นสะตอมีการเจริญเติบโต อีกทั้งยังต้องดูแลตัดแต่งกิ่ง ให้กิ่งสะตอสูงชะลูดพ้นจากทรงพุ่มไม้ผลไม้ยืนต้นอื่น ๆ แล้วจึงปล่อยให้สะตอแตกพุ่ม

นอกจากนี้เกษตรกรยังสามารถใช้ประโยชน์จากลำต้นของสะตอ โดยใช้เป็นค้างสำหรับพืชบางชนิด เช่น พริกไทย พลู หรือดีปลี ปลูกเป็นรายได้เสริมอีกด้วย