
ตั๊กแตนโลกัสต้า นับเป็นศัตรูพืชที่สำคัญชนิดหนึ่ง เพราะขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว การทำลายรุนแรงทำความเสียหายแก่พืชผลของเกษตรกร

เป็นตั๊กแตนขนาดตัวโตปานกลาง รูปร่าง ลักษณะเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อม ความหนาแน่นของตั๊กแตนและพืชอาหาร สามารถแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
1. สภาพอยู่กระจัดกระจาย ลำตัวสีเขียวปนเหลือง หรือสีน้ำตาล ส่วนหัว อก และขาคู่ที่ 3 เป็นสี่เขียว หรือสี่น้ำตาลอ่อน ตรงคอด้านบนเป็นสันแหลมโค้ง ลำตัวยาวประมาณ 6.5 เซนติเมตรส่วนหัวสีเขียวเข็ม ปีกสีน้ำตาล
2. สภาพอยู่รวมกลุ่ม สีของลำตัวและส่วนหัวเป็นสีน้ำตาลปนดำ ปีกสีน้ำตาลเข็ม ค่อนข้างยาวเลยปล้องท้อง 2-2.5 เซนติเมตร หัวค่อนข้างนูน ส่วนหน้ามีเส้นคู่เป็นส้น อกสั้นและกว้าง ขาคู่ที่ 3 ค่อนข้างสั้นและแบน

ในรอบ 1 ปี ตั๊กแตนโลกัสต้า มีการผสมพันธุ์และวางไข่ 3-4 ครั้ง จะผสมพันะวงเดือนมกราคม-เมษายน, กรกฏาคม-พฤศจิกายน และธันวาคม วางไข่ในช่วงเดือน มกราคม-กุมภาพันธ์,พฤษภาคม, กรกฏาคม,กันยายน และ พฤศจิกายน-ธันวาคม ไข่สูงสุด 7-9 ฝัก จำนวนไข่ประมาณ 200-270 ฟอง ตัวอ่อนมีอายุ 27-40 วัน ลอกคาบ 5-6 ครั้ง มี 7 วัย อายุไข่ถึงตัวเต็มวัยประมาณ 32-97 วัน



ตั๊กแตนโลกัสต้าสามารถกินพืชตระกูลหญ้าได้หลายชนิด เช่น ข้าว ข้าวโพด อ้อย ข้างฟ่าง กล้วย มะพร้าว ถั่วเหลือง หม่อน ละหุ่ง ไฝ่ ฝ้าย และยางพารา

- การเขตกรรม มีการไถพรวนดิน และการระบายน้ำท่วมแปลงเพื่อทำลายไข่
- โดยวิธีกล ใช้ตาข่ายดักจับตั๊กแตนตัวอ่อนและใช้แสงไฟ สวิง จับตั๊กแตนตัวแก่
- โดยชีววิธี ใช้ศัตรูที่มีอยู่ในธรรมชาติควบคุม เช่น เชื้อรา แตนเบียนไข่ ไรแดง ใส้เดือนฝอย และตัวห้ำ เช่น นก หนู สัตว์เลี้ยง สัตว์เลื้อยคลาน รวมทั้งมนุษย์
- โดยใช้